หาข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหารใหม่ ๆ สูตรแต่งหน้า หรือวิธีการใช้งานแก็ดเจ็ตเจ๋ง ๆ แทนที่จะเปิด Google แล้วพิมพ์คำค้นหาแบบเดิม ๆ เรากลับเปิดแอป TikTok หรือ Instagram ขึ้นมา แล้วใช้ช่องค้นหาที่นั่นแทน
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะคะ แต่เป็นสัญญาณชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคครั้งใหญ่ ที่กำลังย้ายอำนาจการ “ค้นหา” จาก Search Engine แบบดั้งเดิม ไปสู่ Social Search บนแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นอย่าง TikTok และ Instagram Reels
สำหรับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z และ Millennials การค้นหาไม่ได้หมายถึงการพิมพ์คำแล้วนั่งอ่านบทความเป็นหน้า ๆ อีกต่อไปแล้วค่ะ แต่มันคือการ “ค้นพบ” (Discovery) ที่มาในรูปแบบวิดีโอสั้นที่น่าสนใจ เข้าใจง่าย และให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์

ทำไม Google ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของการค้นหาอีกต่อไป เมื่อ Gen Z ต้องการ “ภาพ”
สาเหตุที่ผู้บริโภคยุคใหม่เปลี่ยนพฤติกรรมการค้นหา มีรากฐานมาจากความไม่พอใจในรูปแบบการแสดงผลแบบเก่า และความต้องการข้อมูลที่ตรงใจกว่า
- ข้อจำกัดของการค้นหาแบบข้อความ เมื่อเราค้นหาคำว่า “โรงแรมที่ดีที่สุดในเชียงใหม่” ผลลัพธ์จาก Google มักจะเป็นบทความรีวิว หรือเว็บไซต์จองที่พัก ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต้องใช้เวลาอ่านและต้องจินตนาการภาพตาม แต่เมื่อค้นหาใน TikTok หรือ IG เราจะได้เห็นวิดีโอรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เห็นบรรยากาศห้องพัก เสียงเพลงประกอบ และมุมถ่ายภาพทันที ทำให้การตัดสินใจเกิดขึ้นเร็วและง่ายกว่ามาก
- ความเชื่อมั่นในวิดีโอ Gen Z ให้ความเชื่อมั่นในเนื้อหาที่มาจากผู้ใช้งานจริง (UGC – User Generated Content) บนแพลตฟอร์มโซเชียลมากกว่าโฆษณาที่ผ่านการขัดเกลามาอย่างดี การค้นหาใน Social Search จึงเป็นวิธีที่รวดเร็วในการตรวจสอบ ความจริงใจ (Authenticity) ของผลิตภัณฑ์
- การค้นพบที่ไม่คาดคิด แพลตฟอร์มโซเชียลถูกออกแบบมาเพื่อการค้นพบ (Discovery) ค่ะ ผู้ใช้หลายคนไม่ได้เข้ามาเพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการ แต่เข้ามาเพื่อ “ไถฟีด” แล้วปล่อยให้ Algorithm แนะนำสิ่งที่น่าสนใจมาให้ ซึ่งมักจะจบลงด้วยการค้นพบแบรนด์ใหม่ ๆ หรือผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาไม่เคยรู้ว่าต้องการ
ดังนั้น สำหรับสินค้าเชิงประสบการณ์ (Experiential Products) และสินค้าที่เน้นความงาม (Aesthetic Products) Social Search จึงกลายเป็นทางลัดที่ทรงพลังกว่า SEO แบบดั้งเดิมไปแล้ว

Social Search Strategy คืออะไร
การทำ Social Search Strategy คือการปรับแนวคิดการทำ SEO ให้เข้ากับ Algorithm และรูปแบบการแสดงผลของแพลตฟอร์มวิดีโอ โดยไม่ได้เน้นแค่การยิงโฆษณา แต่เน้นการเป็น “คำตอบ” ที่มีคุณภาพในช่องค้นหา
- Visual SEO (SEO เชิงภาพ) บนแพลตฟอร์มเหล่านี้ การใช้คำสำคัญ (Keywords) ไม่ได้อยู่แค่ในแคปชั่นหรือแฮชแท็กอีกต่อไป แต่ต้องอยู่ในเสียงบรรยาย (Voice Over), ข้อความบนหน้าจอ (On-Screen Text), และชื่อวิดีโอด้วย AI ของแพลตฟอร์มสามารถถอดเสียงและอ่านข้อความในวิดีโอเพื่อจัดหมวดหมู่เนื้อหาได้ ทำให้แบรนด์ต้องสร้างคอนเทนต์ที่ครบถ้วนทั้งภาพ เสียง และข้อความ
- Hashtag Clustering และ Niche ใน Social Search การใช้แฮชแท็กเฉพาะกลุ่ม (Niche) ที่ตรงกับคำค้นหาของ Gen Z มีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้แฮชแท็กทั่วไป แบรนด์ต้องเข้าใจว่าลูกค้าใช้คำค้นหาแบบไหน เช่น แทนที่จะใช้ #แต่งหน้า ต้องใช้ #แต่งหน้าไปคาเฟ่ หรือ #รีวิวลิปสติกโทนเย็น
- ความต่อเนื่องของการผลิตคอนเทนต์ การทำ Social Search ต้องอาศัยการผลิตคอนเทนต์ในปริมาณมากและสม่ำเสมอ เพราะอายุการใช้งานของวิดีโอสั้นนั้นสั้นมาก แบรนด์ต้องวาง กลยุทธ์การตลาดแบบเรียลไทม์ ที่ตอบสนองต่อเทรนด์ใหม่ ๆ ได้ทันท่วงที เพื่อรักษาการมองเห็นในหน้าค้นหา
ความเร็วของ Algorithm คือหัวใจสำคัญสู่การค้นพบ
เบื้องหลังที่ทำให้ Social Search ทรงพลังกว่าที่เคย คือการทำงานที่รวดเร็วและชาญฉลาดของ Algorithm ซึ่งต้องพึ่งพา โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ระดับสูง
- Low Latency ในการประมวลผลเทรนด์ AI ของแพลตฟอร์มเหล่านี้ต้องประมวลผลสัญญาณพฤติกรรมของผู้ใช้จำนวนมหาศาลจาก ศูนย์ข้อมูล (Data Center) ทั่วโลกแบบ Low Latency เพื่อระบุว่าตอนนี้เทรนด์อะไรกำลังมาแรง และเนื้อหาไหนกำลังจะกลายเป็นไวรัล เพื่อผลักดันเนื้อหานั้นเข้าสู่ช่องค้นหาอย่างรวดเร็ว
- การทำนายความสนใจ (Predictive AI) Algorithm ไม่ได้แค่จัดอันดับเนื้อหาตามความเกี่ยวข้องของคำค้นหาเท่านั้น แต่ใช้ AI ในการทำนายความสนใจของแต่ละบุคคล (Hyper-Personalization) และแสดงผลวิดีโอที่ผู้ใช้น่าจะชอบที่สุดขึ้นมาในอันดับต้น ๆ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าการค้นหาใน Social นั้น “รู้ใจ” มากกว่า
- ระบบเน็ตเวิร์กที่เสถียร รองรับวิดีโอคุณภาพสูง การที่ผู้ใช้หันมาดูวิดีโอเพื่อค้นหาข้อมูล ก็หมายถึงการที่ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ต้องรองรับการสตรีมวิดีโอคุณภาพสูงโดยไม่มีการสะดุด ดังนั้น ระบบเน็ตเวิร์กที่เสถียร และ การเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพ จึงเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้ Social Search เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง
การเปลี่ยนผ่านไปสู่ Social Search Strategy ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่มันคือการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในยุคดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยวิดีโอค่ะ
Social Search ได้เปลี่ยนคำจำกัดความของการค้นหา จากการ “อ่านเพื่อรู้” ไปสู่การ “ดูเพื่อรู้สึก” และ “ดูเพื่อตัดสินใจ” กลยุทธ์การตลาดแบบเรียลไทม์ ที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้จึงต้องเป็นกลยุทธ์ที่เน้นการผลิตวิดีโอที่รวดเร็ว จริงใจ และมีคุณค่าในการค้นพบ
แบรนด์ต้องใช้ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ที่แข็งแกร่ง (Low Latency, Data Center) เพื่อให้ AI ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการระบุเทรนด์ และต้องใช้ความเข้าใจในความเป็นมนุษย์ (Authenticity) เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่เข้าถึงใจผู้ชมได้อย่างแท้จริง
ผู้ชนะในยุคนี้คือแบรนด์ที่ยอมรับว่า ตัวเองต้องเป็น “คำตอบที่น่าดูที่สุด” บนช่องค้นหาของ Social Media ไม่ใช่แค่คำตอบที่อยู่บนหน้าแรกของ Search Engine แบบดั้งเดิมค่ะ

